วันอังคารที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2555

ศิลปินที่ชื่นชอบ คิมจุนซู สมาชิกวง JYJ



Uncommitted Xia Junsu JYJ  
เพลงนี้เป็นเพลงของนักร้องคนโปรด ที่ก้าวสู่โกอินเตอร์  ชอบเซีย จุนซูมากๆๆ  ที่ชอบอะไม่ใช่แค่เรื่องหน้าตาเท่านั้น ความสามารถ บวกกับพรสวรรค์และแสวงมาเต็มคะ เป็นไอดอลคนในอุดมคติเลยอะ  ชอบทุกอย่างที่เป็นเขา และทำให้เรามีความรู้สึกว่า  อยากเป็นคนแบบนี้  อยากประสบความสำเร็จแบบนี้มาก  คนเราไม่ต้องเก่งทุกอย่าง ของให้ทำในสิ่งที่เราและชอบ  และทำมันออกมาให้ดีที่สุดมันก็จะเป็นแบบเขาคนนี้  สปอย์อะไรไม่ได้เกี่ยวกับเพลงเลยะ 555 

พีสก็เป็นแบบนี้แหละ ฟังเพลงนี้แรกๆติดหูมากๆ ชอบมากๆ  ข้างล่างนี้ไม่ได้แปลเองนะ นำจากคนที่แปลแล้วมาอีกทีเพราะชอบมา ต้องขอบคุณเครดิตข้างล่างมากๆ ไว้มีเวลา จะมาแปลเอง แต่คงไม่ใช่เพลงนี้ เพลงต่อๆไปของเซียร์และ เจวายเจ เค้า 

เนื้อเพลงออกเป็นแนวผู้ชายเจ้าชู้ เพลบอย หน่อยๆ น่ารัก อิอิ เข้าข้างสุดๆ 
Lyrics 

She said I couldn’t be committed
เธอบอกว่าฉันน่ะไม่มีวันที่จะรักใครได้คนเดียวหรอก
She said I’m too much of a player
เธอบอกว่าฉันมันเป็นคนเสเพลเกินไป

Come on

Uncommitted
ปราศจากการผูกมัด

Uncommitted
ปราศจากการผูกมัด

Uncommitted
ปราศจากการผูกมัด

Ey, ey

It was all a dream
ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นมันเป็นเพียงแค่ความฝัน
Reality was far from the safe picture she painted for me
ความจริงที่ปรากฏอยู่นั้นช่างห่างไกลจากภาพอันอบอุ่นที่เธอวาดไว้ให้ฉันเหลือเกิน

She told me I was the one and I believed
เธอบอกกับฉันว่า ฉันคือสุดที่รักคนเดียวของเธอ และฉันก็เชื่อที่เธอพูด

until the dream dissipated so suddenly
จนกระทั่งวันหนึ่งฝันนั้นก็หายวับไปกับตา

I don’t know why she was so compelled to leave
ฉันไม่รู้ทำไมเธอถึงดึงดันอยากจะไปจากฉันเหลือเกิน
Something was messin’ with her psychology
เหมือนมีบางอย่างเข้าไปรังควานสภาพจิตของเธอ

I’m confused, she’s sayin’ something’s wrong with me,
ฉันถึงกับงงเป็นไก่ตาแตกตอนที่เธอกำลังพูดกับฉันว่า ฉันเปลี่ยนไป

But how can I fix something I cannot see
แต่ฉันจะไปแก้ไขอะไรได้กับสิ่งที่ฉันมองไม่เห็นกันล่ะ

She said, “You’re not ready
Baby, you’re not ready for the real thing”
เธอพูดว่า “คุณยังไม่พร้อมหรอกที่รัก คุณยังไม่พร้อมที่จะรับรู้ความจริง”

She told me that I’d be
unfaithful and I cannot believe
เธอพูดกับฉันว่า ฉันมันเป็นคนกะล่อน นอกใจ เชื่อไม่ได้

She said you can’t be committed
เธอพูดว่า “คุณมันเจ้าชู้ ไม่มีอะไรมาผูกมัดคุณไว้ได้”
I said baby I don’t really get it
ฉันพูดว่า “ที่รัก นี่มันอะไรกัน ฉันไม่เข้าใจ”

She said you’re not the right type
only good for one night, you never stay committed to me
เธอพูดว่า “คุณมันไม่ใช่คนที่ใช่สำหรับฉันหรอกนะ ดีก็แค่เป็นเพื่อนแก้้้เหงาชั่วข้ามคืนเท่านั้น เพราะคุณไม่เคยหยุดอยู่ที่ฉัน” (ไม่แน่ใจนะคะว่า only good for one night คือ ดีได้เดี๋ยวเดียวเท่านั้นแหละ หรือว่า ดีได้แค่เป็นคู่นอนชั่วคราวเท่านั้น แต่ขอแปลแบบอย่างหลังแล้วกันค่ะ)
How could this be, she’s telling me
มันเป็นไปได้ยังไง เธอพูดกับฉัน
I will never let her be my everything
ฉันจะไม่ยอมให้เธอเป็นทุกสิ่งทุกอย่างของฉันหรอกนะ
(เขาไม่ได้รักเธอมากถึงขั้นนั้นนั่นเองค่ะ พูดง่ายๆคือเธอเป็นแค่ผู้หญิงคนนึงในชีวิตเขาที่เขาแค่มีความเสน่หาด้วยในระดับหนึ่งเท่านั้น)
She said I’m a player and I’ll never change
เธอบอกกับฉันว่า ฉันมันเจ้าชู้และฉันจะไม่มีวันเปลี่ยนไป
I feel that I’m ready to leave again
ฉันรู้สึกว่าฉันพร้อมที่จะจากไปอีกครั้ง (ฝ่ายชายรำคาญนั่นเองค่ะที่ผู้หญิงเรียกร้อง เขาสามารถตัดสินใจจะเดินจากไปได้ง่ายๆ เพราะเขาไม่ได้รักผู้หญิงคนนี้มากถึงขั้นให้เธอเป็นทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตเขานี่คะ ชีวิตของเขาขาดเธอได้ ไม่ใช่เหมือนขาดเธอราวกับขาดใจสักหน่อย ตำหรับผู้ชายเจ้าชู้แท้ๆ)

she said she could never trust a player like me
เธอพูดว่า เธอไม่มีวันที่จะไว้ใจคนเสเพลอย่างฉันได้
but baby that was part of my history
แต่โธ่ที่รัก นั่นมันก็เป็นแค่ส่วนหนึ่งของอดีตของฉันเท่านั้น (กล่อมค่ะ ถึงฉันจะไม่ได้รักเธอปานจะขาดใจ แต่ขาดเธอตอนนี้จะเหงาเอา อิอิ)

she’s telling me breaking hearts is a part of me
เธอเลยบอกกับฉันว่า ทำให้หัวใจคนอื่นสลายน่ะสิเป็นส่วนหนึ่งของฉัน

it’s like it’s in my system and it would never leave
ราวกับว่ามันอยู่ในสันดานของฉันและมันก็จะไม่มีวันหายไปไหน

She said, “You’re not ready
Baby, you’re not ready for the real thing”
เธอพูดว่า “ที่รัก คุณยังไม่พร้อมที่จะรับกับความจริงหรอกนะ”

She told me that I’d be
unfaithful and I cannot believe
เธอบอกกับฉันว่า ฉันไม่ซื่อสัตย์และเชื่อไม่ได้

She said you can’t be committed
เธอพูดว่า “ไม่มีอะไรผูกมัดคุณเอาไว้ได้”
I said baby I don’t really get it
ฉันตอบไปว่า “ที่ฉัน นี่มันอะไรกัน ไม่เห็นจะเข้าใจเลย”

She said you’re not the right type
only good for one night,
you never stay committed to me
เธอตอกกลับมาว่า “คุณไม่ใช่คนที่ใช่ที่อยากจะฝากชีวิตไว้ด้วย อย่างดีก็เป็นได้แค่เพื่อนแก้เหงาไปคืนนึงเท่านั้นแหละ เพราะคุณไม่เคยผูกตัวคุณเอาไว้กับฉันคนเดียวเลย”

She said you can’t be committed
เธอบอกว่า “คุณมันเจ้าชู้”

I said baby I don’t really get it
ฉันตอบว่า “ที่รัก พูดอะไรน่ะ ไม่เห็นเข้าใจเลย”
She said you’re not the right type
only good for one night,
you never stay committed to me
เธอบอกว่า “คุณไม่ใช่พ่อเทพบุตรของฉัน เป็นได้แค่เพื่อนแก้เหงาชั่วข้ามคืนเท่านั้นแหละ เพราะว่าคุณไม่เคยรักฉันแค่คนเดียวเลย”

I’m committed
ฉันหยุดแล้ว ฉันถูกมัด (ฉันรักเธอแค่คนเดียว)

Uncommitted, I’ll never admit it
and then i’ll never get it but somehow she could be right
ไม่มีอะไรมาผูกมัดงั้นเหรอ ฉันจะไม่มีวันยอมรับมันหรอกนะ
และฉันก็จะไม่มีวันเข้าใจมันด้วย แต่มันก็อาจจะจริงอย่างที่เธอพูดก็ได้นะ (ที่ว่าฉันเจ้าชู้)

Uncommitted, I’ll never admit it
and then i’ll never get it but somehow she could be right
หยุดที่ใครไม่เป็นงั้นเหรอ ฉันจะไม่มีวันยอมรับข้อกล่าวหานั่นหรอกนะ
และก็ฉันจะไม่วันทำความเข้าใจกับมันด้วย อย่างไรก็ตามมันก็อาจจะจริงอย่างที่เธอกล่าวหาก็ได้นะ

She said you can’t be committed
เธอพูดว่า “ไม่มีใครมารั้งคุณไว้ได้”
I said baby I don’t really get it
ฉันพูดว่า “ที่รัก นี่มันอะไรกัน”
She said you’re not the right type
only good for one night,
you never stay committed to me
เธอบอกว่า “คุณไม่ใช่คนที่ฉันฝันถึง เป็นได้อย่างดีก็แค่เอาไว้ค้างคืนด้วย เพราะอย่างคุณมันไม่เคยรักฉันจริง”

She said you can’t be committed
เธอบอกว่า “ฉันมันกะล่อน”
I said baby I don’t really get it
ฉันบอกว่า “ที่รัก อะไร ฉันไม่เข้าใจ”

She said you’re not the right type
only good for one night,
you never stay committed to me
เธอเลยตอกกลับว่า “คุณไม่ใช่คนๆนั้นสำหรับฉัน อย่างดีก็เอาไว้ได้แค่เป็นคู่ขาแค่คืนเดียวเท่านั้นแหละ เพราะคุณไม่เคยให้ฉันเป็นคนสุดท้ายของคุณไงล่ะ”

ขอบพระคุณเครดิตงามๆคะ 

English Lyrics: nattaby@bloggang
Thai Trans: MillSung@exteen

วันศุกร์ที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

25/05/2555 บอสไม่อยู่หนูร่างเริง

วันนี้บอสใหญ่ไม่อยู่ คือ โทมัส บรรยากาศก็ยังคงเหมือนเดิม  ทุกคนยังคงทำงานที่ได้รับมอบหมาย
พี่ต่อ คือ Programmer ใหญ่ของบริษัท สอน SEO marketing ให้ฟังแบบคราวๆๆ สิ่งที่ได้ในวันนี้คือ

พี่เค้าให้หา E book หา

 Black Link . >> คือ เราต้อง Submit ของwebsite เพื่อจะได้ทำการโฆษณาเว็ปไซด์
Page Rang PR  ซึ่งของ Google ประมาณ 9 -8 ถ้าสูงกว่า 5 ถือว่าดีมาก
ความยาวของการ Keyword ในการ search engine ไม่เกิน 150 ตัวอักษร
และในการเขียนโปรแกรม ใช้ Meta ในการทำ SEO  ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญมาก เราสามารถใช้โปรแกรมช่วยที่มีแบบให้โหลดใช้ได้

Summit google และอีกหลายอย่างที่ต้องค้นคว้าเพิ่มเติม  Key black list ต่างๆ อีกมายมาย
วันนี้คือได้ความรู้อย่างเต็มๆ  แบบฟังไปมึนไป

วันนี้พอแค่นี้คะ  Goodbye

24/05/2555 วันประชุมงานใหญ่

วันนี้เป็นวันที่บอสเรียกประชุมใหญ่ทีละคน เพื่อประเมินผลงานและเรียกคุยพี่ๆแต่ละบุคคล คล้ายๆกับ Big brother พี่ๆแต่ละคนตื่นเต้นมาก ว่าจะโดนว่าเรื่องอะไร ให้ทำอะไรต่อ พี่ๆเค้ากับมาขู่เด็กฝึกแต่ละคนทำให้ใจเสียเล่นๆๆ  ทำให้รู้สึกชอบการทำงานแบบมากคือ เล่นก็จงเล่นให้เต็มที่ เพราะบอสแกเต็มที่มา ยอมรับความคิดเห็นของทุกคน ทำงานก็จงทำงานอย่างเต็มที่  บอสให้ความสำคัญกับจิตนาการ และให้ทำสิ่งที่ชอบเป็นอย่างมาก  ให้ทำในสิ่งที่ชอบ แล้วคุณจะรักในสิ่งที่ทำโดนไม่คิดว่ามันเป็นงาน และเป็นภาระ 

ที่เข้ามาออฟฟิตนี้ทำให้รู้ว่า  ทุกคนที่อยู่ในองค์กร มีส่วนที่จะเติมเต็มความคิดและความฝันของตัวเอง  ผ่านผลงาน เนื่องด้วยบริษัทที่พีสอยู่เป็นแบบพวกออกแบบดีไซด์ จะทำให้รู้สึกผ่อนคลายมาก  

เมื่อวานได้ไปฟิตเนส  สปา ซาวนาที่เป็นสวัสดิการของบริษัทด้วย  พีสกับนุ้ย เป็นเด็กฝึกงานจึงชิวกันมาก หลังเลิกงานนะคะ แต่คนอื่นก็ยังทำงานกันอยู่  5555 พูดทำไม  ก็คนมันมีความสุขได้ออกกำลังกาย 


วันนี้พี่ๆทุกคนเครียดมากๆ เพราะต้องส่งงานบอสสสส 

ก็ไม่มีอะไร ประชุมกันเฉยๆ เรื่องงาน กับโปรเจคมวยไทย ประเด็นเก่า ที่กำลังมีปัญหา พี่ๆเขาก็ถกเถียงกันไปและมา เพื่อหาคำตอบและทางออกที่ดีที่สุด  วันนี้เลิกงานประมาณ 2 ทุ่มคะ 

จบบบ คะ 

วันศุกร์ที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

18/05/2555 พวกพี่ๆตั้งความหวังให้หนูทำมากไปป่าวคะ

วันนี้พี่ที่คุมให้เลือกแบรนด์ที่จะสั้ง ว่าจะสั้งอะไร ยังไงบ้าง จำนวนเท่าไหร่  เลือกสั่้งตามความคิดเลยจ้า แล้วโทรสั่งของเลยนะ บ่ายนี้ ไอยะ
^^
^^
^^
^^
^^
สิ่งนี้จะทำให้เป็นบ้าเพราะคำพูดนี้ เครียดมากค่า  ไว้ใจหนูมากไปอะป่าว คะ ถ้าสั้งมาแล้วขายไม่ออกอะคะ เพราะของแต่ละอย่างแพงมากกกก 2000 อัพ ทั้งนั้น ทั้งนวมธรรมดา นวมซ้อม นวมชก ระดับ MMA Protective อีก และ กางเกง เสื้อ  Accessory ต่างๆ ยังไม่รวมไซน์และสี และแบบ เครียดมากคะ


สิ่งที่กังวลมีมากมาย คือ มีทั้งหมด 4 แบรนด์ คือ Top kings,Twins,Raja ,FBT   ต้องเลือกว่าจะซื้ออะไรมันยากกก และไซน์ไหนอีกต่างหาก มีหลายแรงกดดันมาก  ถ้าจะให้สั่งแบบมั่วๆง่ายมากก มันมีหลายรายให้เลือกก

เค้าให้สั่งภายในบ่ายนี้ ไอยะ ให้ตายเถอะ เครียดด เลยต้องมาระบายในบล็อค  ยังไงก็จะสู้ๆๆ มันต้องผ่านไปได้เชื่อแบบนั้น ชีวิตคือความเสี่ยง  ไม่นะ คิดแบบง่ายๆไว้ อร๊ากกก เครียด


มั่นใจๆๆไว้ อ๊ากกก


ไปละ ต้องรีบไปทำงานต่อแล้ววววววววววว


17/05/2555 ออกไปหาร้านที่ขายสินค้า 3 ที่

เป็นวันที่ต้องไปดูที่จำหน่ายสินค้ามวยไทย สามที่ คือ ลุมพินี ราชดำเนิน และ รามคำแหง โดยมีงบการเดินทาง 1000 บาท สองคน  วันนี้เป็นวันที่ฝนตกหนักมากๆ  ตั้งแต่ 10 โมงเช้าไปตลอดวัน  แต่ยังไงก็ต้องไปดูสินค้า ที่ต้องเป็นคนตัดสินใจซื้อ  เริ่มจาก นั่งแท็กซี่ไป รถไฟฟ้าใต้ดิน ไปถึงสถานีลุมพินี  ฝนก็ยังไม่หยุดตก ก็เดินต่อไปเรื่อยๆ ไปถึงหน้าสนามมวย มีร้านช๊อป ของสองแบรนด์ดังก็คือ Twins และ Top kings  จึงมุ่งหน้าไปร้าน Twins ก่อน

บรรยากาศและประสบการณ์ที่ได้เข้าร้าน Twins ตอนแรกรู้สึกว่ามันน่ากลัวมาก มีแต่พนักงานผู้ชายเต็มร้าน และเป็นผู้หญิงด้วย เพราะว่าพี่ๆห้ามบอกว่าเราจะทำธุรกิจอะไร เหมือนให้ไปสืบข้อมูล และ พฤติกรรมการซื้อของผู้บริโภคที่เป็นชาวต่างชาติ  ก็ไปสำรวจ พวก Gloves, training Gear, T-shirt and กางเกงมวย ไปดูด้านราคา คุณภาพของสินค้า และทำความรู้จักไปในตัว จากการทำงานจะเห็นได้ว่า เราต้องเป็นคนมีไหวพริบ และประสบการณ์มากๆในการทำเรื่องแบบนี้  เป็นสิ่งใหม่และท้าทายมาก


ต่อด้วยร้านต่อไปที่อยู่ข้างๆกัน คือ Top kings ลักษณ์ของสินค้าของแบรนด์นี้ราคาถูกกว่า Twins ซึ่งเป็นสากลกว่า  ซึ่งเชื่อว่าคุณภาพน่าจะเท่าๆกัน เหมือนแบรนด์ Twins จะขายความเป็นสทากลมากกว่า ได้สังเกตุพฤติกรรมของลูกค้าชาวต่างชาติเห็นว่า ชาวต่างชาติที่เข้าร้านเดียวกัน ซื้อ Accessory แบรนด์ Twins แต่มาซื่อ นวมของ Top King ซึ่งมีราคาถูกว่า เห็นพฤติกรรมการเลือกซื้อหลายๆอย่าง


ร้านถัดมาคือร้านขายกางเกงของลุมพินี  เป็นลักษณะของการตัดกางเกง สวยกว่าทั้งสองแบรนด์ดังกล่าว เห็นลูกค้าต่างชาติ  เลือกซื้อกางเกงร้านนี้  จะเห็นได้ว่าแบรนด์แต่ละแบรนด์มีความแตกต่างจากของที่อยู่ภายในร้าน ทำให้เห็นพฤติกรรมการเลือกซื้อของชาวต่างชาตื ก็คล้ายๆกับคนไทย มักเลือกของที่ดีแล้วถูก ด้วย


หลังจากที่กลับจากลุมพินี สถานที่ต่อไป คือ รามคำแหง ฝนก็ยังไม่หยุดตก เลย นั่งรถจากไฟาใต้ดินจากลุมพินี  ไปที่ห้วยขวาง แล้วนั่งรถเมล์ไปรามคำแหง 65 เพื่อไป FBT คือแบรนด์ศูนย์รวมอุปกรณ์กีฬา อยู่ชั้น 7 ไปดูแบบเป็นอีกแบรนด์ที่ราคาถูกเมื่อเทียบกับคุณภาพแล้ว เป็นแบรนด์เรียบๆไม่ค่อยฉูดฉาดเหมือนสองแบรนด์ข้างต้น สินค้าไม่ค่อยแตกต่างกันเท่าไหร่

จากนั้นนั่งแท็กซี่ไปสถานนีใต้ดิน อโศก แล้วนั่้งต่อไปที่ หัวลำโพง แล้วก็มีสารถีพาไปส่งที่ราชดำเนิน แบรนด์ที่อยู่ข้างสนามมวยชื่อ ราชา RaJa  เป็นแบรนดที่ไม่แตกต่างกับ King เท่าไหร่ สีจะฉูดฉาดและลากจะรกมากกว่า ลาวกว่า อ่าๆๆ ที่ก็ขายดีกับกลุ่มเป้าหมายเช่นเดียวกัน

หลังจากที่สำรวจได้ 4 แบรนด์สินค้าก็กลับมาที่บริษัท รายงานผลพี่ๆ ที่ทำงาน ว่าได้เห็นอะไร ยังไงบ้าง วันนี้แทบหมดแรงเลยทีเดียว เพราะฝนตกตากฝน  แต่สิ่งที่ทำให้เห็นก็คือเรารู้จักแบรนด์ต่างๆได้ดีขึ้น ว่าควรสั้งอะไร ที่ไหน อย่างไร เปรียบเทียบราคา และลักษณะของผลิตภัณฑ์  ได้เรียนรู้ทริป การเลือกซื้อเล็กๆน้อย และอื่นๆอีกมากมาย

เหนื่อยมาก แต่ได้ประสบการณ์  สู้ๆๆ Pitchapa  พิมพ์ไม่ไหวแล้วคะ ^_____^

วันพุธที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

16/05/2555 วันพุธตอนเช้ารถติด

วันนี้เข้าออฟฟิตมา หาอะไรกิน แล้วก็ลุยงาน Marketing ต่อ คือโทรหาโรงงาน 6 ที่ผลิตสินค้า ว่าที่ตั้งอยู่ไหน สามารถเข้าไปดูของได้ที่ไหนบ้าง ทำให้รู้ว่าการติดต่อสื่อสารเป็นเรื่องที่ต้องใช้ความอดทนมาก แบรนด์ๆบางแบรนด์ที่เป็นอินเตอร์หน่อย เขาไม่ค่อยขายของแบบค้าส่งให้เราง่ายๆเนื่องจากเราจะค้าขายออนไลน์แบบ Ecommerce ซึ่งบางแบรนด์เขาก็ขายออนไลน์ต่างประเทศอยู่แล้ว ไม่ยอมให้เราซื้อสินค้าง่ายๆ และบริษัทบิกๆใหญ่การซื้อของเขาจะสั่งจากเมลล์เป็นหลัก ได้โทรไปหาของจริงตื่นเต้นมาก

พรุ่งนี้ต้องไปลุยลงพื้นที่จริง เช็คของ คุณภาพ ของสินค้า ว่าควรลงสินค้าไหนบ้างแบบเห็นของจริง ต้องไปค่ายมวยด้วย ตื่นเต้นมาก วันนีเต้องช่วยพี่เค้ากรอกดาต้าอีกแล้ว  งานเร่งมากจริงๆ ตาลายมาก

งานเร่งมากไม่มีเวลาปั่นบล็อค ไปก่อนนะคะ


15/05/2555 วันนี้งานเข้าและมึนมาก

วันนี้เป็นวันที่งานเยอะมาก คือ พี่ที่ทำงานเรียกเข้าไปคุย  ให้ทำ Product analysis ของหลายๆแบรนด์ ที่ีเป็นแบรนด์มวยไทยเช่น Twins,Tuff,Raja,King,Yoakkao,FBT ศึกษาข้อมูล Product เบื้องต้น ว่าแบรนด์ไหนเด่นอะไร  เพื่อนำมาวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อติดต่อกับตลาด พี่เขาเรียกไปคุยประมาณ 2 ชม เพื่อทำการประชุมอย่างจริงจัง  เพราะว่าจะทำการตลาดแบบออนไลน์ Ecommerce ระหว่างประเทศ ที่ทำคือโซนนิวซีแลนด์ พี่เขาให้ข้อมูล เอ็กเซล ร้อยกว่าไฟล์ แบบดูจนเบลอไปหมด เกี่ยวกับเรื่องมวย  ตั้งแต่ค่าเงินยูโร ราคาสินค้าแต่ละชิ้น ขนาด ค่าเงิน และอีกมากมาย สินค้าทุกแบรนด์ที่เกี่ยวกับแบรนด์  วิเคราะห์กับเพื่อหาแบรนด์ที่จะสร้างแบรนด์ HMT ซึ่งเป็นแบรนด์ที่กำลังจะสร้างใหม่  ซึ่งได้วิเคราะห์และหาจุดยืนของแบรนด์เรียบร้อยแล้ว ว่าแบรนด์ใดเหมาะกับแบรนด์เราบ้าง


งานหลักๆที่ศึกษาคือ ประชุมและ Product Analysis วันนี้พีสมาคนเดียว เพื่อนอีกคนยังไม่มา เลยรู้สึกต้องการเพื่อนมาช่วยคิดเป็นอย่างมาก เพราะรับข้อมูลผลิตภัณฑ์เยอะมาก แต่ก็สนุกดี เหมือนได้สร้างแบรนด์ๆหนึ่งกับพี่ๆเขาด้วย และทำให้รู้ว่าความรู้เรื่องแบรนด์สำคัญมากในโลกยุคปัจจุบัน แบรนด์ๆหนึ่งจะประสบรความสำเร็จได้ต้องใช้ความระเอียดรอบคอบ และประมวลความคิดเป็นอย่างมาก ต้องศึกษาตลาดว่าเขาต้องการอะไร ยิ่งเป็นพฤติกรรมของบริโภคย่อมแตกต่างจากบ้านเราเป็นอย่างมาก เพราะจับกลุ่มเป้าหมายคือ คนยุโรป  เรากับเขาจะคิดแตกต่างกัน วัฒนธรรม ค่านิยม ย่อมต่างกันด้วย


พรุ่งนี้ที่ต้องทำก็คือ โทรไปหาโรงงานของแบรนด์ต่างๆที่เลือกมา ว่าเขาขายยังไง ขายส่ง แบบไหน อะไรยังไง เป็นสิ่งที่น่าตื่นเต้นมาก


เวลาประมาณ 3 โมง หลังจากที่พีที่ทำงาน เทศนามาสองชั่วโมงกว่า อร๊ายย ล้อเล่น ก็มาช่วยพี่เอาใส่ Content เว็ปไซต์ข้อมูลลูกค้า แบบเมามันมาก แล้วพี่ๆเขาบอกว่าจะสอนทำ PHP,Css  etc อีกด้วย พี่เค้าไม่กั๊กความรู้เลย ถึงเหนื่อยแต่ก็สนุกมากกก ขอบคุณมากคะ สำหรับวันนี้ ^________^


วันศุกร์ที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

11/5/2555 วันนี้เข้าออฟฟิต 9.35 น

วันนี้เป็นวันศุกร์เย้ๆ วัน Lelax day วันนี้เป็นวันผ่อนคลายที่สุดในอาทิตย์ เพราะเป็นวันที่บริษัทมีมิตติ้งกัน ก็เข้ามาก็ออกไปหาอะไรกิน หิวมาก ไปซื้อแอมเบอร์เกอร์ที่เซเว่นมากกิน เข้ามาบรรยากาศก็ปกติ พี่ๆบางคนมาทำงานสายเพราะเมื่อคืนทำงานจนดึก  ที่สังเกตุเห็นก็คือไม่ว่ายังไง บอสใหญ่คือคุณโทมัสมักมาก่อนพนักงานเสมอ ก็มาถึงบุ๊บ พี่ๆทุกคนก็ตั้งใจทำงานที่คั่งค้างจากเมื่อคืน พี่ที่ดูแลนุ้ยและพีสยังไม่มีงานให้ทำก็นั่งรอกันไป  ประมาณ 11โมง มีลูกค้ามาดูงานที่เคยให้ทำ พีสกับนุ้ยมีหน้าที่ชงกาแฟสดให้ลูกค้า 3 แก้ว ตอนนี้เป็นพนักงานร้านกาแฟชั่วคราว แต่ก็สนุกดี

บรรยากาศในที่ทำงานเริ่มตึงเครียด  ลูกค้าคุยเรื่องงานที่ให้ทำกับบอสใหญ่คุณโทมัส  คุยกันไปประมาณ บ่ายโมงถึงกลับไป  งานมี Date line ภายในวันนี้เป็นสิ่งที่ลูกค้าเร่งมา  พีสกับนุ้ยไม่ได้อยู่ในฝ่ายสร้างสรรค์ออกแบบเว็ปเลยต้องเข้าไปช่วย วันนี้ได้ช่วยเกี่ยวกับการนำ Data ลงเว็ปไซต์ แต่ละ สแกเตอรี่เยอะมาก นั่งปั่นกันนิ้วหงิกกันเลยทีเดียว

พี่ๆแบ่งงานมาให้กันเป็นระบบมาก มีฝ่าย Data ฝ่าย Art ฝ่าย Programmer ดูแลเรื่องระบบของเว็ป คุณโทมัสเก่งเรื่อง SEO เสริทเอนจิ้น ตอนนี้ต้องช่วยๆพี่เขาก่อน ค่อยทำงาน Marketing ซึ่งเป็นโปรแจ็คต่อไป ต้องรอต่อไป ตอนนี้ใกล้แย่ละ นั่งปั่นงาน Data แต่ก็ดีกว่าไม่ได้ทำอะไร Fighting

ได้ความรู้มากกก แต่ไม่ใช่การตลาด แต่ก็สนุกและท้าทายดีค่าาาา

ไปละ ฟิ้ววๆๆๆ


วันพฤหัสบดีที่ 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

27/04/2555 ไปทะเล กับที่ออฟฟิตคะ


Day off   Kos design 



Boss Tomas เป็นคนถ่ายภาพนี้ 




รูปนี้ถ่ายครบทั้ง Office คะ 


ลั่นลามาก 


Kos design 




          วันนี้ที่บริษัทได้พาไปเที่ยว ที่บางแสน ชลบุรี คะ  ก็นัดกันประมาณ 12.00 น. ที่บริษัท  แต่เนื่องจากมีลูกค้ามาตามงานพวกพี่ๆ ตั้งใจจะไปทะเล ด้วยเสื้อผ้าเตรียมไปเที่ยวเต็มที่ ต้องมานั่งปั่นงาน ในขณะที่รถตู้มารอ ตั้งแต่เที่ยงแล้ว  ก็พีเค้าจะเคลียงาเสร็จก็ประมาณ บ่ายโมง  บรรยากาศที่ตึงเครียดในตอนแรก มาผ่อนคลายเมื่อเสร็จ มุ่งหน้าไปบางแสนคะ 
 
           พอไปหาดบุ๊บ  ก็ไปไปนั่งที่เก้าอี้ชายหาด  สั่งอาหารทะเลมากิน  นั่งเล่นอุคุเรเร่ ที่เพื่อนจากขอนแก่น  นั่งชิวๆที่เก้าอี้ชายหาด  แล้วพวกพี่ก็เล่าประสบการณ์การทำงานให้ฟัง   ทำให้รู้อะไรอยากๆอย่างคิอ คนที่มีจิตนาการ และรู้จักเรียนรู้ประสบการณ์จากข้อผิดพลาด ทำให้ได้เรียนรู้  อย่าหยุดที่จะพัฒนาตนเอง เหมือน สเตีจ๊อป เขาก็ไม่ได้ประสบความสำเร็จแต่แรก  เขาเรียนรู้ที่จะลองผิดลองถูกด้วยตนเอง  คล้ายจิตนาการที่สามารถทำให้เป็นจริงได้  พี่ๆเขาก็เล่าถึงการทำงานในบริษัท ว่าพวกพี่เขาอยู่กันสไตล์ไหน บอสใหญ่หรือคุณโทมัสเป็นคนอย่างไร  เป็นบรรยากาศเหมือนพี่ๆช่วยสอนรุ่นน้องในการทำงาน เพราะการทำงานของจริงมันแตกต่าง พวกพี่เขาก็พูดถึงประสบการณ์ตรงที่เขาทำงานมา
            
           วันนั้นออกจากที่บางแสนประมาณ ตีหนึ่ง ถึงหอประมาณ ตีสามคะ  รู้สึกว่าเป็นวันที่คุ้มค่ามาก จากประสบการณ์ตรงจากพวกพี่ๆและได้เที่ยว ประสบการณ์ที่บริษัทอื่นๆไม่ค่อยมี บรรยากาศการพูดคุยที่เป็นกันเอง และอบอุ่นแบบนี้ 
                                                                                                                                                                                    by  fairypeace 
                                                                                                                                                                                      


26/04/2555 ฝึกงานวันแรก


          วันนี้เป็นวันฝุึกงานวันแรก ตื่นเต้นมาก ก่อนอื่มบอกชื่อบริษัทก่อนน้า พีสฝึกงานอยู่บริษัท Kos design  เป็นบริษัทพวกออกแบบเว็ปออนไล์ เป็น Agency แบบ Home office  ตอนแรกตอนเข้าออฟฟิตไปแรกๆก็เกรงมาก พีสกับนุ้ยเพื่อนที่ฝึกงานฝ่าย Marketing คือทำการตลาดแบบออนไลน์ ของต่างประเทศ ตอนเข้าไปมีเพื่อนๆที่ฝึกงานด้วยกัน 3 คน จาก ม.ศิลปากร และ จาก ม.ขอนแก่น วันแรกของการฝึกงานไปเช้ามาก 8.30 น. แต่ออฟฟิตเปิดประมาณ 9.30 น. ก็ไปรอพวกพี่ๆอยู่ที่หน้าบริษัท ได้ทักทายเพื่อนๆก่อน แล้วก็มีพี่มาเปิดออฟฟิต  ก็เข้าออฟฟิตไป เปิดโน๊ตบุคคนละเครื่อง เพราะเป็นงานเกี่ยวกับออกแบบเว็ปเป็นส่วนใหญ่ งานของที่นี้คือรับงานจากชาวต่างชาติเป็นส่วนใหญ่ในการออกแบบเว็ปไซด์ ทำเรื่อง identity logo ทั้งหมด พี่มิ้นเป็นพี่ที่ดูแลรับผิดชอบเขาก็บอกว่าจะได้ พีสกับนุ้ย ซึ่งต้องฝึกงานในส่วนของ Marketing  ดูแลในส่วนของ การคิดกลยุทธ์แบรนด์ HMT ซึ่งเป็นแบรนด์ที่เค้ากำลังสร้างขึ้น เพื่อการค้าขายออนไลน์  E commerce  ซึ่งชาวต่างชาติที่จะมาสั่งของแบบออนไลน์ พี่เค้าให้วิเคราะห์งานจากแบรนด์ที่พี่เค้าสร้าง แต่วันแรกพี่เค้าก็ไม่ได้ให้ทำอะไรมาก แค่พูดเกริ่นๆเฉยๆ  พี่เค้าให้ดูงานเก่าๆที่เคยทำมาให้ดู  แล้วบอกว่าเราจะสื่อสารกันงานทางระบบไหนบ้าง  และก็ให้ดูงานเว็ปที่เราต้องช่วยกันพัฒนา เนื่องจากบริษัทที่มาฝึกงานเป็นของคุณ Tomas คือชาวต่างชาติ เขาจึงความคิดงานหัวทันสมัยนิสหนึ่ง ก็ชอบที่ได้ฝึกงานที่นี้

        ช่วงที่เข้ามาวันแรก  วันรุ่งขึ้นทางออฟฟิตเข้าจะเที่ยวกันพอดี จึงโชคดีที่ได้ไปเที่ยว บางเสน ชลบุรี  กระทันหันมากๆ น่าสนุกจัง ตื่นเต้นมากๆ ต้องเตรียมตัวไปแล้ววว


By  :  fairy peace 

วันพุธที่ 11 เมษายน พ.ศ. 2555

One thing



One Direction - One Thing
"สิ่งนั้น"

I tried playing it cool Girl when I'm looking at you
ผมพยายามจะทำเฉย แต่เวลาที่ผมมองเห็นคุณ
I can't ever be brave Cause you make my heart race
ผมไม่เคยจะกล้าพอ เพราะคุณทำให้ใจผมเต้นแรง

Shot me out of the sky You're my kryptonite
ผมร่วงลงจากฟ้า คุณคือคริปโตไนต์ของผม
You keep making me weak Yeah, frozen and can't breathe
คุณทำให้ผมอ่อนแอ สะกดนิ่ง และไม่อาจหายใจ

Some things gotta give now
จะต้องทำอะไรบางอย่างแล้วล่ะตอนนี้
Cause I'm dying just to make you see
เพราะผมอยากทำให้คุณเห็นเหลือเกิน
That I need you here with me now
ว่าผมต้องการคุณที่นี่เดี๋ยวนี้
Cause you've got that one thing
เพราะคุณมีอะไรบางอย่างนั่น

* So get out, get out, get out of my head
เพราะงั้น ออกมาจากหัวของผมได้แล้ว
And fall into my arms instead
และมาอยู่ในอ้อมแขนของผมแทน
I don't, I don't, don't know what it is
ผมไม่รู้ว่ามันคืออะไร
But I need that one thing
แต่ผมต้องการสิ่งนั้น
And you've got that one thing
และคุณก็มีสิ่งนั้น

Now I'm climbing the walls But you don't notice at all
ผมก้าวข้ามอุปสรรคทั้งหลาย แต่คุณก็ไม่สังเกตุเห็นเลย
That I'm going out of my mind All day and all night
ว่าผมใจลอยทั้งวันทั้งคืน

Some things gotta give now
จะต้องทำอะไรบางอย่างแล้วล่ะตอนนี้
Cause I'm dying just to know your name
เพราะผมอยากรู้ชื่อของคุณมากเหลือเกิน
That I need you here with me now
ว่าผมต้องการคุณที่นี่เดี๋ยวนี้
Cause you've got that one thing
เพราะคุณมีสิ่งนั้น

* So get out, get out, get out of my head
เพราะงั้น ออกมาจากหัวของผมได้แล้ว
And fall into my arms instead
และมาอยู่ในอ้อมแขนของผมแทน
I don't, I don't, don't know what it is
ผมไม่รู้ว่ามันคืออะไร
But I need that one thing
แต่ผมต้องการสิ่งนั้น
So get out, get out, get out of my mind
เพราะงั้น ออกมาจากใจของผมได้แล้ว
And come on, come into my life
และเข้ามาอยู่ในชีวิตของผม
I don't, I don't, don't know what it is
ผมไม่รู้ว่ามันคืออะไร
But I need that one thing
แต่ผมต้องการสิ่งนั้น
And you've got that one thing
และคุณก็มีสิ่งนั้น

You've got that one thing
คุณมีสิ่งนั้น

Get out, get out, get out of my head
ออกมาจากหัวของผมได้แล้ว
And fall into my arms instead
และมาอยู่ในอ้อมแขนของผมแทน (*)


วันศุกร์ที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2555

Inspiration of me

เป็นครั้งแรกที่ทำบล็อค รู้สึกตื่นเต้นและดีใจมาก 555 
         อยากเขียนบทความสำหรับแรงบันดาลใจมานานมากแล้วปกติเป็นคนที่ชอบดูซี่รี่ย์เกาหลี ได้ข้อคิดต่างๆมากมายมาจากซี่รีย์ รายละเอียดเล็กๆน้อยๆที่คนมองข้ามไป  ดิฉันคิดว่า ท้ศนคติของคนมีผลต่อคิดอะไร ใหม่ๆ สร้างสรรค์ การอคติกับสิ่งต่างๆมากมายทำให้ตนเองไม่สามารถก้าวไปไหน  และพัฒนาสังคมที่เราอยู่ได้ ดิฉันชอบคนที่เป็นคนพัฒนาตัวเองตลอดเวลา ไม่ชอบอยู่นิ่ง เพราะรู้สึกว่ามันน่าเบื่อมาก ชอบมองอะไรที่คนอื่นเขาไม่มองกัน บางครั้งสังคมทำให้เราลืมไปว่า แท้ที่สุดเราต้องการอะไร ฉันเป็นคนที่ชอบพูดชอบคุยกับตัวเองบ่อยๆ หาแรงบันดาลใจให้ตัวเองพัฒนาอยู่เสมอ  ตราบใดที่เรามีชีวิตอยู่  ทำอะไรที่เป้็นประโยชน์มากที่สุดกับคนอื่นและสังคมรอบข้าง ตามกำลังและความสามารถ  แรงบันดาลใจของฉันไม่ใช่คนใดคนหนึ่ง แต่หลายคนที่เก่งในด้านต่างๆที่ไม่เหมือนกันฉันจะเอาข้อดีของพวกเขาเหล่านั้นมารวมกัน และสร้างเป็นแบรนด์ หรือเป็นคนๆหนึ่งก็คือตัวเอง สร้างสรรค์สิ่งต่างๆไปเรื่อยๆ ฉันจะไม่เป็นคนตัดสินอะไรเพราะเห็นจากภายนอก

         เฝ้าถามแต่ตัวเองว่า ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น เขากำลังสอนอะไรเรา  เขากำลังจะบอกอะไรเรา เป็นที่มาของความคิดที่ไม่หยุดนิ่งอยู่กับที่ การเป็นคนที่ชอบคิด ชอบทำอะไรไม่เหมือนชาวบ้าน บางครั้งเราถูกมองว่าเป็นตัวประหลาดในตอนแรก แต่ไปสักพัก คนรอบข้างก็จะเข้าใจความหมายของเรา เป็นอาจจะเทรน เฟชั่นอีกไม่ช้า  เหมือนพระจันทร์ที่มี 2 ด้าน วันไหนที่เมฆมาบดบังให้มือ คนก็จะคิดว่าพระจันทร์ทำไมวันนี้มืดจัง แต่คุณไม่มีวันรู้หรอกว่า อีกด้านหนึ่งของพระจันทร์กำลังให้แสงสว่างกับคนที่อยู่อีกฝากอยู่  เหมือนเหรียญที่มีสองด้าน คุณมองมันว่ามีด้านเดียวแล้วด่วนสรุปว่ามันคือ หัว คือ ก้อย การตัดสินใจว่าใครถูกใครผิดก็เป็นแบบนั้นเช่นกัน  การดูหนัง ดูละครให้ได้ประโยชน์มันขึ้นอยู่กับทัศนคติของคนดูว่าจะตีความหมายได้มากน้อยเพียงไหน ถ้าคุณไม่เห็นมันมีคุณค่า มันก็ไม่มีคุณค่าตามที่คุณคิด 





      ไม่ว่าคุณจะดูอะไร คิดอะไรก็ตามอยากให้พยายามคิดบวกไว้  คือพยายามมองโลกในแง่ดี เด๋วนี้การมองโลกในแง่ดีอย่างเดียวคงใช้ไม่ได้แล้ว ต้องคิดคูณ  ตัวอย่างเช่น เวลาคุณเจอปัญหาอะไรในชีวิต พยายามมองโลกในแง่ดีไว้  ทุกอย่างมันมีเหตุผลของมัน ถ้าคุณคิดบวกเป็นประจำเรื่อยๆ ทุกอย่างที่เจอจะต้องดีตามที่คุณคิด  ถ้าเจองานที่เกินความสามารถก็คิดว่าเราต้องพัฒนาได้มากกว่านี้ ต้องดีกว่านี้ เราถึงต้องเจอแบบนี้  พยายามคิดบวก อย่างเดียวไม่มีข้อแม้อะไร ถึงเขาจะว่าเรา หรือเกิดอะไรที่ไม่ดีมากๆก็ตามม ปัญหาและอุปสรรค์มีไว้ให้เราก้าวกระโดด ก้าวข้ามผ่านมันไป จำไว้ว่า ทุกอย่างที่เกิดขึ้นรอบตัวเรา เขาจะสอนเราทั้งสิ้น เขาจะทำให้เราเปิดเผยความเป็นตัวตนที่แท้จริงของคุณ ซึ่งเชื่อว่าทุกคนมี่สิ่งวิเศษที่พระเจ้าให้ไว้ จำไว้ว่าสิ่งที่เป็นรายละเอียดมันอยู่ในเรื่องที่ไร้สาระ มากกว่าเรื่องที่มีสาระ